20 ไอเดียขนมช็อกโกแลต ทำง่าย หวานเข้มข้น ฟินได้ทุกโอกาส

เมื่อพูดถึงขนมหวานที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ช็อกโกแลตก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้ ตั้งแต่การทำช็อกโกแลตแบบดั้งเดิมไปจนถึงการสร้างสรรค์ขนมหวานใหม่ ๆ ช็อกโกแลตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการกินเพื่อความสบายใจในวันที่เหน็ดเหนื่อย หรือการจัดงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ

ในบทความนี้ ฉันจะพาคุณเดินทางไปสำรวจโลกของขนมช็อกโกแลต พร้อมแนะนำสูตรและเคล็ดลับในการทำขนมช็อกโกแลตที่อร่อยและน่าทึ่ง

สารบัญ

ประวัติและที่มาของช็อกโกแลต

ประวัติช็อกโกแลต

จุดเริ่มต้นของช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตมีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า ชาวมายาและอาซเท็กส์ใช้เมล็ดโกโก้ในการทำเครื่องดื่มที่มีรสขมและเปรี้ยว ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “xocolātl”

การแพร่กระจายของช็อกโกแลตสู่ยุโรป

เมื่อช็อกโกแลตถูกนำเข้าสู่ยุโรปในศตวรรษที่ 16 โดยนักสำรวจชาวสเปน ช็อกโกแลตเริ่มได้รับความนิยมและถูกปรับสูตรให้มีรสชาติที่หวานขึ้น ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงและในที่สุดก็แพร่หลายไปยังกลุ่มประชากรทั่วไป

ประเภทของช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตมีความเข้มข้นของโกโก้สูงและไม่มีนม เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้นและความขมอมหวานที่สมดุล

มิลค์ช็อกโกแลต

มิลค์ช็อกโกแลตประกอบด้วยโกโก้และนมผง ซึ่งทำให้มีรสชาติที่หวานและครีมมี่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติที่นุ่มนวล

ไวท์ช็อกโกแลต

ไวท์ช็อกโกแลตทำจากเนยโกโก้ นมผง และน้ำตาล โดยไม่มีสารโกโก้แข็ง ทำให้มีรสชาติหวานและครีมมี่

เคล็ดลับในการทำขนมช็อกโกแลต

การเลือกช็อกโกแลตที่ดี

การเลือกช็อกโกแลตที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ขนมของคุณมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ควรเลือกช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้สูงและมีการระบุส่วนผสมที่ชัดเจน

See also  ขนมตาล: ตำนานความหอมหวานจากภูมิปัญญาโบราณ

การละลายช็อกโกแลตอย่างถูกวิธี

การละลายช็อกโกแลตควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยใช้วิธีการละลายที่อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ช็อกโกแลตเกิดการแยกตัว

การใช้ช็อกโกแลตในการตกแต่งขนม

การตกแต่งขนมด้วยช็อกโกแลตสามารถเพิ่มความสวยงามและรสชาติให้กับขนมได้ ควรใช้เทคนิคการตกแต่งที่เหมาะสม เช่น การราดช็อกโกแลตบนเค้ก หรือการทำช็อกโกแลตชิป

สูตรขนมช็อกโกแลตที่ไม่ควรพลาด

เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม

ส่วนผสม:

  • แป้งเค้ก
  • ช็อกโกแลตดำ
  • น้ำตาลทราย
  • ไข่
  • เนย

วิธีทำ:

  1. เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
  2. ละลายช็อกโกแลตกับเนย
  3. ตีไข่กับน้ำตาลจนฟู
  4. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  5. เทใส่พิมพ์และอบประมาณ 30 นาที

บราวนีช็อกโกแลต

ส่วนผสม:

  • ช็อกโกแลตดำ
  • เนย
  • น้ำตาล
  • แป้ง
  • ไข่

วิธีทำ:

  1. ละลายช็อกโกแลตกับเนย
  2. ผสมไข่กับน้ำตาล
  3. ผสมส่วนผสมที่ละลายแล้วเข้ากับแป้ง
  4. เทใส่พิมพ์และอบประมาณ 25 นาที

คุกกี้ช็อกโกแลตชิป

ส่วนผสม:

  • แป้ง
  • ช็อกโกแลตชิป
  • เนย
  • น้ำตาล
  • ไข่

วิธีทำ:

  1. ตีเนยกับน้ำตาลจนฟู
  2. ใส่ไข่และผสมให้เข้ากัน
  3. ผสมแป้งและช็อกโกแลตชิป
  4. ปั้นเป็นก้อนแล้วอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 10-12 นาที

ขนมช็อกโกแลตที่สามารถทำขาย

ช็อกโกแลตลาวาเค้ก

ส่วนผสม:

  • แป้ง
  • ช็อกโกแลต
  • ไข่
  • เนย
  • น้ำตาล
See also  สร้างสรรค์ขนมไทยกระยาสารท: วิธีทำที่อร่อยและง่ายดาย

วิธีทำ:

  1. เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
  2. ละลายช็อกโกแลตกับเนย
  3. ผสมไข่และน้ำตาล
  4. ผสมส่วนผสมทั้งหมดและเทใส่พิมพ์
  5. อบประมาณ 12-15 นาทีจนช็อกโกแลตกลางยังคงลาวา

ช็อกโกแลตบาร์

ส่วนผสม:

  • ช็อกโกแลตดำ
  • ถั่ว
  • ผลไม้แห้ง

วิธีทำ:

  1. ละลายช็อกโกแลต
  2. เทลงในพิมพ์และโรยถั่วกับผลไม้แห้ง
  3. ทิ้งให้เย็นและเซ็ตตัว

การจัดเก็บขนมช็อกโกแลต

การเก็บรักษาช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตควรเก็บในที่เย็นและแห้ง เพื่อป้องกันการละลายและการเกิดการเปลี่ยนสี

การเก็บรักษาขนมช็อกโกแลตที่ทำเสร็จแล้ว

ขนมช็อกโกแลตที่ทำเสร็จแล้วควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท และเก็บในตู้เย็นถ้าต้องการเก็บรักษานาน

เค้กโคตรช็อคโกแลต

ส่วนผสม

ส่วนของเค้ก

  • ไข่ไก่เบอร์ 1 (1 ใบ)
  • นมจืด 120 กรัม
  • น้ำร้อน 120 กรัม
  • น้ำมันรำข้าว 50 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 110 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้ 35 กรัม

ส่วนของซอสราด

  • น้ำตาลทราย 80 กรัม
  • แป้งกวนไส้หรือแป้งข้าวโพด 15 กรัม
  • ผงโกโก้ 50 กรัม
  • นมจืด 350 กรัม
  • เนย 50 กรัม
See also  สูตรสมูทตี้โยเกิร์ต: สำรับอร่อยสุขภาพดี ทำเองง่ายๆ

วิธีทำ

1. เตรียมส่วนผสม

  1. เตรียมเตาอบ: เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส (350 องศาฟาเรนไฮต์) และวางถาดเค้กไว้ที่เตรียมไว้

2. ผสมส่วนผสมเค้ก

  1. ผสมของเหลว: ในชามใหญ่ ใส่ไข่ไก่ นมจืด น้ำร้อน น้ำมันรำข้าว และกลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากันจนส่วนผสมทั้งหมดผสมดี
  2. ผสมของแห้ง: ในชามอีกใบหนึ่ง ผสม น้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา และผงโกโก้เข้าด้วยกัน
  3. รวมส่วนผสม: เติมส่วนผสมแห้งลงในส่วนผสมของเหลวแล้วคนให้เข้ากันจนไม่เห็นผงแป้ง

3. อบเค้ก

  1. เตรียมถาด: ทาเนยหรือใช้กระดาษรองอบในถาดเค้กขนาด 8 นิ้ว (20 ซม.)
  2. เทแป้งลงถาด: เทส่วนผสมเค้กลงในถาดอบที่เตรียมไว้
  3. อบเค้ก: นำถาดอบลงในเตาอบที่เตรียมไว้ อบประมาณ 25-30 นาที หรือจนกว่าจะสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันแทงลงไปแล้วไม่มีแป้งติดออกมา

4. ทำซอสราด

  1. ผสมส่วนผสมซอส: ใส่น้ำตาลทราย แป้งกวนไส้ (หรือแป้งข้าวโพด) ผงโกโก้ และนมจืดลงในหม้อ ขยี้ให้เข้ากันจนไม่มีลักษณะเป็นก้อน
  2. เคี่ยวซอส: นำหม้อขึ้นตั้งไฟกลาง-ต่ำ ค่อย ๆ คนจนส่วนผสมเริ่มข้นและเริ่มเดือด
  3. เติมเนย: เมื่อลักษณะของซอสเริ่มข้นแล้ว ให้เติมเนยลงไปและคนจนเนยละลายเข้ากับซอส

5. เสิร์ฟ

  1. ปล่อยให้เค้กเย็น: หลังจากที่เค้กอบเสร็จแล้ว ให้นำออกจากเตาและปล่อยให้เย็นในถาดประมาณ 10 นาที ก่อนจะนำออกจากถาดและพักให้เย็นสนิทบนตะแกรง
  2. ราดซอส: เมื่อเค้กเย็นแล้ว ให้นำซอสช็อกโกแลตที่ทำไว้แล้วราดลงบนเค้ก
  3. ตกแต่งและเสิร์ฟ: ตกแต่งเค้กตามชอบแล้วเสิร์ฟ

สรุป: ความหลงใหลในขนมช็อกโกแลต

การทำขนมช็อกโกแลตไม่เพียงแต่เป็นศิลปะ แต่ยังเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ด้วยสูตรและเคล็ดลับที่นำเสนอในบทความนี้ ฉันหวังว่าคุณจะสามารถทำขนมช็อกโกแลตที่อร่อยและมีความสุขในการสร้างสรรค์ขนมที่คุณรัก