การที่เราเดินทางมาพักผ่อนในโรงแรม เราอาจเห็นเลขชั้นที่ข้ามไปโดยไม่สนใจ แต่เลข 13 นั้นกลับเป็นเรื่องที่มีความหมายและความเชื่อทางวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ ทำไมบางโรงแรมถึงไม่มีชั้นที่ 13? เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพียงแค่ความสะดวกในการนับชั้น แต่มีพื้นฐานทางศาสนาและความเชื่อทางวัฒนธรรมที่มีความหมายลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง เราจะไปพบกับเหตุผลที่โรงแรมมักจะหลีกเลี่ยงเลข 13 และวิธีที่พวกเขานำมาใช้ในการออกแบบและตั้งชื่อชั้นของพวกเขา มาติดตามกันเถอะว่าทำไมเลข 13 ถึงมีความหมายสำคัญแบบนี้ในโลกของโรงแรมบ้าง
เลข 13 เป็นอัปมงคล
การเชื่อว่าเลข 13 เป็นอัปมงคลเป็นเรื่องที่มีรากฐานอยู่ในหลายวัฒนธรรมและศาสนาต่างๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน เลข 13 มีบทบาททางทางศาสนาและเครื่องมือในการทำนายและการตัดสินใจทางชีวิตของมนุษย์ นี่คือบางที่มาและความหมายที่น่าสนใจของเลข 13 ที่เป็นอัปมงคล:
1. ตำนานของพระเยซูคริสต์ (The Last Supper)
ตำนานที่สำคัญที่สุดที่เชื่อกันมากที่สุดในวัฒนธรรมคริสต์คือ The Last Supper ซึ่งเป็นมื้อสุดท้ายของพระเยซูก่อนที่จะถูกจับจำนงค์ ในการเลือกของพระองค์ มีผู้ร่วมโต๊ะทั้งหมด 13 คน และคนที่ 13 คือยูดาห์ ซึ่งได้รับการจัดการต่อเนื่องในวันที่ 13 ของเดือนเมษายน การเป็นคนที่ 13 ในเหตุการณ์นี้ได้เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับความไม่ดีของเลข 13 ในศาสนาคริสต์
2. การเชื่อในการตัดสินใจทางชีวิต
เลข 13 ยังมีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจทางชีวิตในบางวัฒนธรรม แม้ว่าไม่ได้มีการเชื่อที่แน่นอนในการทำนายของเลข 13 ตามแบบที่สากล แต่ในบางวัฒนธรรม การตัดสินใจทางชีวิตอาจจะถูกทำสารเลข 13 เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจ
3. ความเชื่อในการไม่ดีของเลข 13
ในสมัยกลางเฟื่องของศตวรรษที่ 20 เลข 13 ได้รับการเชื่อว่าเป็นเลขที่ไม่ดีหรือไม่เครียดในหลายสถาบัน ซึ่งผลที่ได้มาจากการเชื่อนี้ส่งผลต่อการใช้เลข 13 ไม โรง โรง ผู่ เช่น avoid
วิธีการหลีกเลี่ยงเลข 13 ในโรงแรม
การหลีกเลี่ยงเลข 13 ในโรงแรมเป็นเรื่องที่น่าสนใจเนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเลขนี้เป็นอัปมงคลหรือนำมาเป็นเครื่องทำนายที่ไม่ดี ซึ่งการที่โรงแรมจะตัดสินใจที่จะไม่มีหรือหลีกเลี่ยงชั้นที่ 13 สามารถทำได้ผ่านหลายวิธีตามที่แสดงดังนี้:
1. การตั้งชื่อทางเลือก
บางโรงแรมเลือกที่จะไม่ตั้งชื่อว่า “ชั้นที่ 13” แต่จะเลือกใช้ชื่อทางเลือกอื่นแทน เช่น การใช้เลข 12A, 12B หรือ M แทนชั้นที่ 13 ซึ่งชื่อทางเลือกนี้ไม่เฉพาะเจาะจงเพียงแค่ในโรงแรมเท่านั้น แต่ยังพบได้ในอาคารที่ต่างกันเช่น ตึกสำนักงานหรืออาคารพาณิชย์
2. การใช้ชื่อเฉพาะ
บางโรงแรมตัดสินใจที่จะใช้ชื่อเฉพาะที่ไม่มีการกล่าวถึงเลข 13 โดยตรง เช่น การใช้คำว่า “ชั้นสระน้ำ” หรือ “ชั้นน้ำตกในน้ำตก” แทนเพื่อลดความเกรงใจของผู้เข้าพักที่อาจมีความเครียดเกี่ยวกับเลข 13
3. การใช้เลข 14 แทน
บางโรงแรมเลือกที่จะใช้เลข 14 แทนเลข 13 โดยจะไม่มีชั้นที่ 13 แต่จะกระโดดไปใช้เลขถัดไปอย่างตรงไปตรงมา เช่น ใช้เลข 12, 14, 15 หรือใช้เลขอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 13 เพื่อหลีกเลี่ยงเชื่อความศัตรูของเลข 13
4. การใช้ชื่อสถานที่เฉพาะ
บางโรงแรมเลือกที่จะใช้ชื่อที่เป็นสถานที่เฉพาะเพื่อตั้งแต่งการต่างๆ แทนการใช้เลข 13 อย่างตรงไปตรงมา เช่น การใช้ชื่อ “ชั้นน้ำตกในน้ำตกไนแองการาฟอลส์” แทน “ชั้นที่ 13”
5. การไม่มีชั้นที่ 13 จริงๆ
บางโรงแรมอาจไม่มีชั้นที่ 13 จริงๆ ในโครงสร้างของพวกเขา โดยจะกระโดดไปใช้เลขถัดไปเลย เช่น จากชั้น 12 ไปเลยเป็นชั้น 14 เพื่อไม่ให้มีชั้นที่ 13 ในอาคารของพวกเขา
6. การใช้คำว่า “ไม่มีชั้นที่ 13”
บางโรงแรมอาจจะเลือกที่จะบอกได้เป็นตรงๆ ว่า “ไม่มีชั้นที่ 13” เพื่อแสดงให้แก่ผู้เข้าพักทราบว่าไม่มีชั้นที่ 13 ในโรงแรมของพวกเขา ซึ่งเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญกายและความตรงไปตรงมาในการปฏิบัติของการบริการที่พวกเขาให้กับผู้เข้าพัก
ตัวอย่างโรงแรมที่ไม่มีชั้นที่ 13
โรงแรมเรดิสัน วินนิเพ็ก, มานิโตบา, แคนาดา
โรงแรมเรดิสันในเมืองวินนิเพ็ก มณฑลมานิโตบา ประเทศแคนาดา ได้ใช้ชื่อ “เดอะ พูล ฟลอร์” (ชั้นสระน้ำ) แทนชั้นที่ 13 เพื่อหลีกเลี่ยงความเกรงใจของผู้เข้าพักที่มีเชื่อเรื่องเลข 13
โรงแรมเชอราตัน, ออนแทริโอ, แคนาดา
โรงแรมเชอราตันในมณฑลออนแทริโอ แคนาดา ได้ใช้ชื่อ “เดอะ ฟอลส์ อิน ไนแองการา ฟอลส์” (ชั้นน้ำตกในน้ำตกไนแองการา) แทนชั้นที่ 13 เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เข้าพักรู้สึกไม่สบายใจกับเลข 13
โรงแรมแมนฮัตตัน โอเรียนเตล, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
โรงแรมแมนฮัตตัน โอเรียนเตลบนเกาะแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นอาคารหลังแรกของโลกที่มีความสูงมากกว่า 100 ชั้น แม้จะมีความสูงที่สุดแต่ก็ไม่มีชั้นที่ 13 ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงเลข 13 ในโครงสร้างของพวกเขา
สรุป
สรุปบทความเรื่อง “ทำไมโรงแรมไม่มีชั้น 13” มีดังนี้:
โรงแรมทั่วโลกมักจะหลีกเลี่ยงการตั้งชั้นที่ 13 เนื่องจากเชื่อกันว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคลหรือเสี่ยงดวงไม่ดีตามความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมต่างๆ อันเป็นสิ่งที่กลายเป็นธรรมเนียมและประเพณีในการออกแบบโรงแรม สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แก่:
- ความเชื่อทางศาสนา: ที่มาของการหลีกเลี่ยงเลข 13 มาจากเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในศาสนาคริสต์ที่มีตำนานเกี่ยวกับ The Last Supper ที่มีผู้ร่วมโต๊ะทั้งหมด 13 คน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำไม่ดี
- ความกลัวต่อเลข 13: มีคำว่า “ไทรสไกเดกกะโฟเบีย” (Triskaidekophobia) ที่ใช้เรียกอาการกลัวเลข 13 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อที่แพร่หลายในสังคม
- วิธีการหลีกเลี่ยง: โรงแรมมักจะใช้เลขที่ถัดไปหรือชื่อทางเลือก เช่น 12A, 12B, M หรือใช้เลข 14 แทนเพื่อป้องกันไม่ให้มีชั้นที่ 13 ในการออกแบบ
- ตัวอย่างของโรงแรม: มีโรงแรมชื่อดังเช่นเรดิสันที่ใช้ชื่อ “เดอะ พูล ฟลอร์” และเชอราตันที่ใช้ชื่อ “เดอะ ฟอลส์ อิน ไนแองการา ฟอลส์” เป็นต้น ที่มีการหลีกเลี่ยงเลข 13 อย่างชัดเจนในการตั้งชื่อชั้น
การหลีกเลี่ยงเลข 13 ในโรงแรมไม่ได้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก แต่เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการถ่ายทอดความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติที่มีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรมในทุกๆ ส่วนของโลก